บทที่ 1
การออกแบบคืออะไร การ
ออกแบบเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ประสบการณ์ความรู้
และทักษะอย่างกว้างขวางเพื่อที่จะแสวงหาแนวทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุดภายในข้อ
จำกัดที่มีอยู่
การออกแบบเกี่ยวข้องการระบุปัญหาและทำให้ปัญหากระจ่างประกอบไปด้วยการตอบ
สนองที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
และปรับปรงวิธีแก้ไขปัญหาแล้วเริ่มต้นออกแบบใหม่อีก
ทำไมต้องเปลี่ยนแปลงการออกแบบ เห
ตผลหนึ่งคือ การเปลี่ยนแปลงตามความต้องการทางสังคม เหตุผลที่สองคือ
การพัฒนาทางเทคโนโลยีใหม่ซึ่งสามารถประยุุกต์เข้ากับผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมได้
การออกแบบมีผลกระทบต่อชีวิตเราอย่างไร ผู้
ออกแบบต้องเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม
เนื่องจากวิชาการที่ออกแบบสามารถมีผลกระทบต่อประชาชนได้
อย่างไรก็ตามนักออกแบบต้องให้ความสนใจกับประชาชนเป็นอย่างมากและเป็นอันดับ
แรก
การออกแบบการเรียนการสอน เป็น
กระบวนการของการป้องกันด้วการวางแผนแก้ไขปัญหาก่อนการเรียนการสอน
โดยวิเคราะห์สถานการณ์หรือเงื่อนไขการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ
สมรรถภาพที่ต้องการผู้ออกแบบการเรียนการสอนคือ
พฤติกรรมที่มีการบรณาการและเกี่ยวข้องกับการกลั่นกรอง การวิเคราะห์
การจัดการ การสังเคราะห์ สารสนเทศ และเนื่องจากความหลากหลายในทักษะต่างๆ
จึงมีวิธีทั่วไปอยู่สองวิธีในการสอนรายวิชา "การออกแบบการเรียนการสอน" คือ
วิธีการตัดสินใจพื้นฐานที่ครูจะต้องสร้างขึ้นและนำไปใช้
การออกแบบการเรียนการสอนตามวิธีการเชิงความรู้ ผู้เรียนจะได้รับการคาดหวังว่า จะสามารถรู้หลักการการออกแบบการรียนการสอนได้
การออกแบบการเรียนการสอนตามวิธีการเชิงผลิตภัณฑ์ ผู้เรียนจะได้รับความคาดหวังว่า จะสามารถประยุกต์ใช้หลักการการออกแบบวัสดการเรียนการสอนได้
การออกแบบการเรียนการสอนพัฒนามาตามวิธีการเชิงระบบในการพัฒนาการฝึกอบรมของกองทหารระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีพื้นฐานแนวคิดว่า การเรียนร้จะไม่เกิดขึ้นตามบุญตามกรรม แต่จะพัฒนากลมกลืนไปกับการเรียงลำดับของกระบวนการและมีผลที่ได้รับด้วย
การ
พัฒนาสาขาวิชาของการออกแบบการเรียนการสอนมีความเกี่ยวข้องกับสาขาวิชาอื่นๆ
คือ จิตวิทยา การติดต่อสื่อสาร การศึกษา และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
และเมื่อสาขาวิชามีการขยายเติบโตขึ้นก็ต้องมีบทบาทของนักวิจัยและนักปฏิบัติ
การเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยทั่วไปเป็นที่ยอมรับกันว่า
การออกแบบการเรียนการสอนต้องอาศัยพื้นฐานของการวิจัย
วิธี
การออกแบบการเรียนการสอนโดยทั่วไปประกอบด้วยขั้นตอนการวิเคราะห์ การออกแบบ
การพัฒนา การนำไปใช้ และการประเมินผล
คังนั้นกระบวนการออกแบบการเรียนการสอนจึงรวมถึงการนิยามว่า
ผู้เรยนควรจะเรียนรู้อะไร ะมีการวางแผนอย่างไร การเรียนรู้จงจะเกิดขึ้น
และจะกลั่นกรองการเรียนการสอนอย่างไร จนกระทั่งบรรลุจุดประสงค์
1.ความต้องการในการออกแบบการเรียนการสอน
คิด
และคาเรย์ กล่าวว่า ความต้องการในการออกแบบการเรียนการสอน คือ
ความจำเป็นเร่งด่วนทันทีทันใด โดยยกตัวอย่างว่า
นักออกแบบการเรียนการสอนจำนวน 12 คน
ที่ทำงานเกี่ยวกับเตาปฏิกรณ์ปรมาณูในท้องถิ่นจะต้องมีปริญญาเทคโนโลยีการ
เรียนการสอนและต้องรับผิดชอบเพื่อที่จะให้เกิดความแน่ใจในคุณภาพของการเรียน
การสอนทุกระดับ (Disk and Carey 1985 : 8)
งาน
ของผ้นักออกแบบการเรียนการสอน คือ
นำจุดประสงค์และการเรียงลำดับของจุดประสงค์ไปสู่กระบวนการเรียนการสอนเพื่อ
ที่จะให้เกิดความแน่ใจที่คุณภาพของการเรียนการสอน
วิธการในลักษณะนี้จะแล้วเสร็จได้ด้วยการประยุกต์ใช้กระบวนการเชิงระบบ
และใช้การวิจัยและความรู้จากทฤษฎีการออกแบบการเรียนการสอน
และจากสาขาวิชาอื่นๆ
ดัง
นั้นอาจสรุปได้ว่า ความต้องการจำเป็นในการออกแบบการเรียนการสอน
คือการแก้ปัญหาคุณภาพการเรียนการสอนในสถานการณ์ที่หลากหลาย
เพื่อให้การเรียนการสอนมีคุณภาพด้วยวิธีการเชิงระบบที่ให้ผลอันยิ่งใหญ่ต่อ
การพัฒนาปัจเจกบุคคล
แะมนุษย์โดยทั่วไปและตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรู้ว่ามนุษย์เรียนรู้ได้อย่าง
ไร
แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนโดยทั่วไป
จากหลักการเพื่อออกแบบการเรียนการสอนที่กล่าวมาแล้ว สิ่งที่จะแสดงได้ชัดเจนเพื่อการจัดการเรียนการสอนที่เป็นรูปธรรม คือ รูปแบบการออกแบบการเรียนการสอน (Instructional Design Model) ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญและเป็นแนวทางให้ผู้สอนทุกคนสามารถดำเนินการสอนให้ได้มาตรฐานของการเรียนการสอนที่ใกล้เคียงกันแม้ว่าผู้สอนจะมีประสบการณ์ต่างกัน รูปแบบการออกแบบการเรียนการสอนประกอบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ในการออกแบบระบบการเรียนการสอน ซึ่งมักจะเขียนในรูปแบบของผังแสดงลำดับการทำงาน (Flowchart) เพื่อแสดงรูปแบบให้เข้าใจได้ง่าย และรวดเร็ว โดยหลักการพื้นฐานในการออกแบบการเรียนการสอนที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย คือ แบบจำลอง ADDIE ที่มีองค์ประกอบ ๕ ขั้นตอน ดังนี้
1. ขั้นการวิเคราะห์
1. ขั้นการวิเคราะห์
การวิเคราะห์เป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการออกแบบการเรียนการสอน ผู้ออกแบบจะต้องกำหนดความจำเป็นในการเรียน ทำการวิเคราะห์เนื้อหาหรือกิจกรรมการเรียนการสอน คุณลักษณะของผู้เรียน วัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนเพื่อรวบรวมข้อมูล สำหรับใช้เป็นแนวทางในการกำหนดขอบเขตของบทเรียน ขั้นการวิเคราะห์ประกอบด้วยขั้นตอนย่อย ดังนี้
1.1 วิเคราะห์ความจำเป็น (Need Analysis) คือการวิเคราะห์เพื่อกำหนดเลือกว่าควรจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับอะไร โดยอาจหาข้อมูลจากความต้องการของผู้เรียน หรืออาจหาข้อมูลจากการกำหนดความจำเป็น ปัญหาขัดข้อง หรืออุปสรรคที่ทำให้การเรียนการสอนไม่บรรลุตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้และพิจารณาว่ามีความจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องจัดการเรียนการสอน หากจำเป็นหรือสมควรจัด และควรจัดอย่างไร
1.2 วิเคราะห์เนื้อหา หรือ กิจกรรมการเรียนการสอน (Content and Task Analysis) คือ การวิเคราะห์เพื่อจัดการเรียนการสอนให้ครอบคลุม หรือสอดคล้องกับความต้องการ ความจำเป็นในการเรียนการสอน โดยพิจารณาอย่างละเอียดด้านเนื้อหา มีการแบ่งเนื้อหาเป็นหัวข้อใหญ่ และหัวข้อย่อย ๆ เพื่อให้มีความชัดเจน กำหนดเลือกกิจกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสมที่จะให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
1.3 วิเคราะห์ผู้เรียน (Analyze Leamer Characteristic) เป็นการวิเคราะห์เพื่อสรุปเป็นข้อมูลสำหรับการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียน โดยควรวิเคราะห์ทั้งลักษณะทั่วไป เช่น อายุ ระดับความรู้ความสามารถ เพศ สังคม วัฒนธรรม เป็นต้น และควรวิเคราะห์ ลักษณะเฉพาะของผู้เรียนด้วย เช่น ความรู้พื้นฐาน ทักษะความชำนาญ หรือความถนัด รูปแบบการเรียน ทัศนคติ เป็นต้น
1.4 วิเคราะห์วัตถุประสงค์ (Analyze Objective) วัตถุประสงค์ของการเรียนการสอน คือ จุดหมายปลายทางที่กำหนดไว้ให้ผู้เรียนและผู้สอนรู้ว่าเมื่อเรียนบทเรียนนั้น ๆ แล้วจะเกิดการเรียนรู้อะไรบ้าง ดังนั้นการกำหนดจุดวัตถุประสงค์จึงต้องมีการวิเคราะห์อย่างละเอียดและรอบคอบ โดยอาจกำหนดจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายหลักของการเรียนการสอนก่อน แล้วจึงกำหนดวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมที่สามารถประเมินผลได้ชัดเจนเป็นรูปธรรมว่าผู้เรียนบรรลุการเรียนตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ โดยวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมแยกเป็น ๓ ด้าน คือ
1) วัตถุประสงค์ด้านพุทธิพิสัย คือ พฤติกรรมเกี่ยวกับความรู้ ความเข้าใจ
2) วัตถุประสงค์ด้านจิตพิสัย คือ พฤติกรรมเกี่ยวกับความรู้สึก ค่านิยม ทัศนคติ
3) วัตถุประสงค์ด้านทักษะพิสัย คือ พฤติกรรมเกี่ยวกับการกระทำหรือการปฏิบัติ 1.5 วิเคราะห์สภาพแวดล้อม (Analyza Environment) วัตถุประสงค์การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมในการสอน เพื่อเป็นการเตรียมการล่วงหน้าว่า สถานที่ เวลา และบริบทในการเรียนการสอนที่จะดำเนินการนั้นจะอยู่ในสภาพใด เช่น ขนาดห้องเรียน อุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนที่จะใช้คืออะไร
2.การออกแบบ (design) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องระบุว่าจะเรียนอย่างไร
2.การออกแบบ (design) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องระบุว่าจะเรียนอย่างไร
3.การพัฒนา (developmant) เป็นกระบวนการของการจัดการและการผลิตวัสดุอุปกรณ์
4.การนำไปใช้ (imprmentation)เป็นกระบวนการของการกำหนดโครงการในบริบทของโลกห่งความจริง
5.การประเมินผล (evalution) เป็นกระบวนการของการตัดสินตกลงใจต่อความเพียงพอของการเรียนการสอน
บทบาทของผู้ออกแบบการเรียนการสอน
บทบาทของผู้ออกแบบการเรียนการสอนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่นำเสนอว่าต้องอาศัยเทคนิค หรือไม่ต้องอาศัยเทคนิค และขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของทีมการออกแบบ เนื้อหาที่ต้องใช้เทคนิคสูง ผู้ออกแบบจำเป็นต้องให้คำแนะนำในการออกแบบกับผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา ถ้าเนื้อหานั้นไม่ต้องใช้เทคนิคที่สูงมากจนเกินไปผู้ออกแบบก็สามารถทำได้อย่างอิสระมากขึ้นด้วยความเชื่อเหลือของผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา ผู้ออกแบบสามารถที่จะทำงานเป็นผู้ให้คำปรึกษาจาภายนอก และรับผิดชอบภาระงานทั้งหมดเหมือนเป็นคนในสำนักงาน
ตารางการเปรียบเทียบการสอนแบบดั้งเดิมกับการเรียนการสอนเชิงระบบ
องค์ประกอบของการเรียนการสอน
|
การเรียนการสอน
แบบดั้งเดิม
|
การเรียนการสอน
เชิงระบบ
|
1.กำหนดเป้าประสงค์
|
*ตำราหลักสูตรดั้งเดิมการอ้างอิงภายใน
|
*การประเมินความต้องการจำเป็น
*การวิเคราะห์งาน
*การอ้างอิงภายนอก
|
2,จุดประสงค์
|
*กล่าวในรูปของผลที่ได้รับรวมๆ หรือการปฏิบัติของครู
*เหมือนกันสำหรับนักเรียนทุกคน
|
*จากการประเมินความต้องการจำเป็นการวิเคราะห์/การประเมินงาน
*เลือกด้วยการพิจารณาจากความสามารถของผู้เรียนเมื่อแรกเข้าเรียน
|
3.จุดประสงค์ในความรู้เฉพาะของผู้เรียน
|
*ไม่ได้รับการบอกกล่าวล่วงหน้าต้องสัญญาณจากการรับฟังบรรยายและการอ่านตำรา
|
*บอกกล่าวอย่างเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษล่วงหน้าก่อนเรียน
|
4.ความสามารถก่อนเข้าเรียน
|
*ไม่ต้องใส่ใจ นักเรียนทุกคนมีวัตถุประสงค์และวัสดุอุปกรณ์ / กิจกรรมเหมือนกันหมด
|
*การพิจารณา
*กำหนดวัสดุอุปกรณ์ / กิจกรรมแตกต่างกัน
|
5.ผลสัมฤทธิ์ที่คาดหวัง
|
*ใช้โค้งมาตรฐาน
|
*มีความเป็นแบบอย่างเดียวกันสูง
|
6.ความรอบรู้
|
*นักเรียนส่วนน้อยรับรู้จุดประสงค์ทั้งหมด
*รูปแบบผิดพลาด
|
*นักเรียนส่วนใหญ่รับรู้จุดประสงค์ทั้งหมด
|
7.ค่าระดับและการเลื่อนระดับ
|
*อยู่บนพื้นฐานการเปรียบเทียบกับนักเรียนคนอื่นๆ
|
*อยู่บนพื้นฐานการรอบรู้จุดประสงค์
|
8.การสอนเสริม
|
*บ่อยครั้งที่ไม่มีการวางแผน
*ไม่มีการเปลี่ยนจุดประสงค์หรือวิธีการเรียนการสอน
|
*วางแผนสำหรับนักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือแสวงหาจุดประสงค์อื่นๆ เลือกวิธีการเรียนการสอน
|
9.การใช้แบบทดสอบ
|
*กำหนดค่าระดับ
|
*เฝ้าระวัง ติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียน
*ตัดสินความรอบรู้
*วินิจฉัยความยากลำบาก
*ปรับปรงการเรียนการสอน
|
10.เวลาศึกษากับความรอบรู้
|
*เวลาคงที่ : ระดับความรอบรู้หลากหลาย แตกต่างกัน
|
*ความรอบรู้คงที่ : เวลาหลากหลายแตกต่างกัน
|
11.การตีความของความล้มเหลวที่จะไปให้ถึงความรู้
|
*นักเรียนผู้สงสาร
|
*มีความต้องการจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงการเรียนการสอน
|
12.การพัฒนารายวิชา
|
*เลือกวัสดุอุปกรณ์ก่อน
|
*ระบุจุดประสงค์ก่อนแล้วจึงจะเลือกวัสดุอุปกรณ์
|
13.ดับขั้นตอน
|
*อยู่บนพื้นฐานของเหตุและผลสังเขปหัวเรื่อง
|
*อยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่ต้องรู้ก่อนตามความจำเป็น และหลักการของการเรียนรู
|
14.การปรับปรุงการเรียนการสอนและวัสดุอุปกรณ์
|
*อยู่บนพื้นฐานของการคาดเดางาน หรือความเพียงพอของวัสดุอุปกรณ์ใหม่
*เกิดขึ้นเป็นพักๆ
|
*อยู่บนพื้นฐานของการประเมินข้อมูล
*เกิดขึ้นเป็นประจำ
|
15.กลยุทธ์การเรียนการสอน
|
*พอใจให้ผ่านได้อย่างกว้างๆ
*อยู่บนพื้นฐานของความชอบหรือความคล้ายคลึง
|
*เลือกที่จะให้ได้รับตามจดประสงค์
*ใช้ยุทธวิธีที่หลากหลาย
*อยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีและการวิจัย
|
16.การประเมิน
|
*บ่อยครั้งที่ไม่เกิดขึ้น : การวางแผนเชิงระบบมีน้อย
*ประเมินแบบอิงกลุ่ม ข้อมูลได้จากปัจจัยนำเข้าและกระบวนการ
|
*การวางแผนเป็นระบบ : เกิดขึ้นประจำ
*ประเมินความรอบรู้ตามจุดประสงค์
*ประเมินผลอิงเกณฑ์ข้อมูลที่ได้จากผลที่ได้รับ (ผลผลิต)
|
ตาราง งานและผลผลิตของกระบวนการออกแบบการเรียนการสอน
ขั้นตอนและภาระงาน
|
การเรียนการสอนแบบดั้งเดิม
|
การเรียนการสอนเชิงระบบ
|
การวิเคราะห์-กระบวนการของการนิยามว่าต้องทำเรียนอะไร
|
*ประเมินความต้องการจำเป็น
*ระบุปัญหา
*วิเคราะห์ภาระงาน
|
*แฟ้มผู้เรียน
*การพรรณนาข้อจำกัด
*คำกล่าวของความต้องการจำเป็นและปัญหา
*การวิเคราะห์ภาระงาน
|
การออกแบบ-กระบวนการของการชี้เฉพาะว่าจะเรียนอย่างไร
|
*เขียนจุดประสงค์
*พัฒนารายการของแบบทดสอบ
*วางแผนการเรียนการสอน
*ระบุแหล่งทรัพยากร
|
*จุดประสงค์ที่วัดได้กลยุทธ์การเรียนการสอน
*ลักษณะเฉพาะของตัวแบบ
|
การพัฒนา-กระบวนการของหน้าที่และผลิตวัสดุอุปกรณ์
|
*ทำงานกับผู้ผลิต
*พัฒนาคู่มือ แผนภูมิ โปรแกรม
|
*สตอรี่บอร์ด
*สคริป
*แบบฝึกหัด
*คอมพิวเตอร์ช่วยการเรียนการสอน
|
การนำไปใช้-กระบวนการของการก่อตั้งโครงการในบริษัทแห่งโลกความจริง
|
*การฝึกอบรมครู
*การทดลอง
|
*การให้ความเห็นของนักเรียน
ข้อมูล
|
การประเมินผล-กระบวนการของการตกลงใจเกี่ยวกับความเห็นผลขอการเรียนการสอน
|
*บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเวลา
*ผลการแปลความแบบทดสอบ
*สำรวจผู้สำเร็จการศึกษา
*ทบทวนกิจกรรม
|
*คำรับรอง
*รายงานโครงงาน
*ทบทวนตัวแบบ
|
งานและผลิตผลของการออกแบบการเรียนการสอน
งานของผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอนอาจจะหลากหลายในความต้องการด้านความรู้ความชำนาญ ผลิตผลที่ได้และสถานการณ์ของงานผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอนอาจจะวิเคราะห์ภาระงานภายใต้การนิเทศของผู้จัดการโครงการในองค์ที่เกี่ยวข้องกับวิจัยและการพัฒนา ผู้จัดการโครงการอาจจะนำทีมซึ่งพัฒนาการประชุมเชิงการปฏิบัติการ 3 วัน สำหรับการอุตสาหกรรม การออกแบบไม่จำเป็นต้องเป็นทีมเสมอไปในองค์กรเล็กๆอาจจะใช้วิธีออกแบบเพียงคนเดียว ในการทำภาระการออกแบบการเรียนการสอน
ตารางเปรียบเทียบความสนใจและเป้าประสงค์ของผู้วิจัยและผู้ปฏิบัติ
แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนทั่วไป
|
บทบาทของผู้วิจัย
|
บทบาทผู้ปฏิบัติ
|
ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์
|
*ศึกษาวิธีการระบุปัญหา
*ศึกษาผลของคุณลักษณะของผู้เรียน
*ศึกษาเนื้อหา
|
*ประยุกต์ใช้วิธีการระบุปัญหา
*กำหนดคุณลักษณะของผู้เรียน
*ใช้การวิจัยในเนื้อหาตามสาขาวิชา
|
ขั้นที่ 2 การออกแบบ
|
*ศึกษาตัวแปรในการออกแบบข่าวสาร
*พัฒนากลวิธีการเรียนการสอน
|
*ให้ผู้ปฏิบัติออกแบบการเรียนการสอน
|
ขั้นที่3 การพัฒนา
|
*ศึกษากระบวนการของทีม
|
*ทำงานกับผู้ผลิตในการพัฒนาสคริป
|
ขั้นที่ 4 การนำไปใช้
|
*ศึกษาชาติวงศ์วรรณาของตัวแปรในสิ่งแวดล้อม
*การระบุตัวแปรของการนำไปใช้ให้ได้ผล
|
*ออกแบบและจัดการสิ่งแวดล้อมและตัวในการเรียนการสอน
|
ขั้นที่ 5 ประเมินผล
|
*ศึกษาข้อถกเถียงที่นำไปสู่การประเมินผล
|
*ประยุกต์ทฤษฎีการประเมินผล
|
บทบาทของผู้วิจัยการออกแบบการเรียนการสอน
คือ การสร้างความรอบรู้อย่างเป็นระบบเกี่ยวกับขั้นตอนสำหรับการพัฒนาการเรียนการสอน บทบาทกำหดให้ระบุคำถามซึ่งจำเป็นต้องศึกษาวางแผนโครงการโดยอาศัยสารสนเทศในการจัดทำโครงการและรายงานผลของโครงการ
บทบาทของผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอน
ผู้ออกแบบการเรียนการสอนมีบทบาทประยุกต์ความรู้ความหลากหลาบสาขาวิชาไปสู่ขั้นตอนในกระบวนการเชิงระบบ เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน บทบาทนี้ต้องการให้ระบุว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องเรียนรู้ ต้องการวางแผนเพื่อที่จะให้การเรียนรู้เกิดขึ้น ต้องการวัดผลการเรียนรุ้เพื่อตัดสินใจว่าผู้เรียนบรรลุจุดประสงค์ และกลั่นกรองสอดแทรกจนกระทั่งบรรลุจุดประสงค์
งานออกแบบ
พิสัยของงานเป็นไปตามสถานการณ์ในระดับที่แตกต่างกันของผู้ชำนาญการ บางครั้งผู้ออกแบบการเรียนการสอนทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้ชำนาญการในขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการ ในบางงานเรียกผู้ออกแบบว่า เป็นผู้ปฏิบัติที่มีสมรรถภาพในการดำเนินโครงการตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด พิสัยของงานไม่เพียงแค่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ที่มีความเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษ แต่บางงานต้องการระดับความแตกต่างของผู้ชำนาญการ
เหตุผลบางประการที่ผู้ออกแบบการเรียนการสอนให้ผลกระทบในระดับต่ำคือ ครูยึดติดกับธรรมชาติดั้งเดิมของโรงเรียน ติดแน่นกับตารางกำหนดงานประจำวัน การพิจารณาให้ทุนกับโรงเรียนมีน้อย การที่จะให้การออกแบบการเรียนการสอนมีความโดดเด่นขึ้นในสถานการณ์ภายในโรงเรียนต้องมีการเปลี่ยน 3 ประการคือ
1. ลดจำนวนเวลาที่ใช้โดยครูและนักเรียนในชั้นเรียนแบบดั้งเดิม
2. ส่งเสริมการเรียนการสอนรายบุคคลในหลักสูตรให้มากขึ้น
3. ใช้ระบบการสอนที่สิ้นเปลืองงบประมาณน้อย
ผลิตผลการออกแบบ
ไม่ว่าจะเป็นงานที่ตั้งสมมติฐานไว้หรืองานในหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายของผลิตผลก็ตาม จะมีขอบเขตที่แตกต่างและซับซ้อน งานการออกแบบการเรียนการสอนก็เช่นกัน ขอบเขตรวมถึงความแตกต่างของขนาดและเนื้อหาความซับซ้อนรวมถึงความแตกต่างของหลักสูตรหรือสื่อ ในระดับที่เล็กที่สุดของขอบเขตคือ แผนการสอนและหน่วยหรือชุดโมดุล ระดับต่อไปรวมถึงรายวิชาและหน่วย รายวิชาหลัดสูตรและสิ่งแวดล้อมเป็นตัวอย่างของผลิตผลที่มีขอบเขตกว้างใหญ่ ระดับสูงสุดของระดับความซับซ้อนคือ สื่อการเรียนรู้ซึ่งมีปฏิกิริยาสัมพันธ์ซึ่งกันและกันโดยอาศัยสื่อทางโทรคมนาคม และคอมพิวเตอร์เข้าช่วย ระดับต่ำสุดของความซับซ้อนคือ กระดาษและดินสอ และสำหรับโสตทัศนวัสดุเป็นระดับกลางของความซับซ้อน
สมรรถภาพของการออกแบบการเรียนการสอน
การออกแบบการเรียนการสอนเป็นกระบวนการทางเชาว์ปัญญาที่ต้องการทักษะความคิดในระดับสูงในการปฏิบัติกิจกรรมนี้จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับทักษะและความถนัดตลอดจนการฝึกอบรมและการศึกษา
ความถนัดของบุคคล
การออกแบการเรียนการสอนต้องอาศัยความถนัดด้วย ผู้ออกแบบการเรียนการสอนจำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถในการคิดทางเชิงรูปธรรมและนามธรรม งานออกแบบที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบความคิดที่มีความคงเส้นคงวา มีเหตุมีผล ในเวลาเดียวกันนักออกแบบก็ต้องมองดูสิ่งที่เป็นเรื่องทั่วๆไปและสิ่งที่เป็นนามธรรมด้วย
ผู้ออกแบบจำเป็นต้องเป็นผู้ที่เข้าใจในภาระงานและสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นให้ได้ผลิตผล เพราะงานการออกแบบสำเร็จลงได้ด้วยการทำงานเป็นทีม นักออกแบจำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีความคิดกว้างไกล เปิดใจ และสามารถที่จะยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์เชิงสร้างสรรค์ได้ มีความอดทนสูงต่อข้อสงสัยของผู้อื่นที่มีต่องานของตน
กาเย่ ได้พรรณาคุณลักษณะบุคคลของนักออกแบการเรียนการสอนไว้ 3 ประเภทคือ เจตคติหรือค่านิยม ความรู้เฉพาะทาง และทักษะเชาว์ปัญญาหรือวิธีการ
7.2 ประกาศนียบัตร
เราจำเป็นต้องรู้ถึงสมรรถภาพของนักออกแบบการเรียนการสอนตามความต้องการ เพื่อที่ได้เพิ่มพูนสมรรถภาพเหล่านั้น สมาคมเพื่อการปฏิบัติและการเรียนการสอนแห่งชาติและแผนกการพัฒนาการเรียนการสอนของสมาคมเพื่อการสื่อสารและเทคโนโลยีแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จัดตั้งคระกรรมการดำเนินงานเพื่อสืบสวนความเป็นไปได้และความสามารถตามต้องการของการให้คำรับรองนักออกแบบการเรียนการสอน
สมรรถภาพในการพัฒนาการเรียนการสอนและการฝึกอบรม
ผู้เชี่ยวชาญที่มีสมรรถภาพในการพัฒนาการเรียนการสอนและการฝึกอบรมมีความสามารถดังต่อไปนี้
1.ตัดสินใจโครงการที่มีความเหมาะสมสำหรับการพัฒนาการเรียนการสอน
|
*วิเคราะห์สารสนเทศโดยพิจารณาศักยภาพของโครงการและตัดสินการพัฒนาการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม
*แยกแยะความต้องการในการแก้ไขปัญหาการเรียนการสอนตามเงื่อนไขจากความต้องการการแก้ปัญหาอื่นๆ
*พิจารณาความเหมาะสมของการตัดสินใจเลือกโครงการและจัดเตรียมเหตุผลของการตัดสินใจ
|
2.ดำเนินความประเมินความต้องการจำเป็น
|
*พัฒนาแผนการประเมินความต้องการจำเป็นรวมถึงการเลือกวิธีการและเครื่องมือ
*ดำเนินการประเมินความต้องการจำเป็นและตีความผล เพื่อแนะนำการกระทำที่เหมาะสม *พิจารณาความเหมาะสมความสมบูรณ์และความถูกต้องของแผนการประเมินความจ้องการจำเป็นและเหตุผล |
3.ประเมินคุณลักษณะของผู้เรียน ผู้เข้ารับฝึกอบรม
|
*แยกความต่างระหว่างการประเมินทักษะเริ่มเข้าเรียน
*การประเมินความรู้เดิมที่ต้องมมีก่อน และการประเมินความถนัด ระบุพิสัยของคุณลักษณะที่สัมพันธ์กันของผู้เรียน ผู้รับการฝึกอบรม และพิจารณาวิธีการสำหรับการประเมินผล *พัฒนาแผนสำหรับการประเมินคุณลักษณะของผู้เรียน ผู้รับการฝึกอบรม และนำไปใช้พิจารณาความเหมาะสม ความเข้าใจ และความเพียงพอของการประเมินคุณลักษณะของผู้เรียน ผู้รับการฝึกอบรม |
4.วิเคราะห์โครงสร้างคุณลักษณะของงาน ภาระงาน และเนื้อหาเลือกและใช้ระเบียบวิธีการเพื่อการวิเคราะห์โครงสร้างคุณลักษณะที่เหมาะสมกับงานและภาระงานย่อยหรือเนื้อหาและบอกเหตุของการเลือกด้วย
| |
5.เขียนคำกล่าวของผลที่ได้รับของผู้เรียน
|
*กล่าวถึงจุดประสงค์ที่มีความแตกต่างกันในรูปของการปฏิบัติพฤติกรรมจากเป้าประสงค์ของการเรียนการสอน เป้าประสงค์ของการจัดการกิจกรรมของผู้เรียน และจุดประสงค์ที่เขียนขึ้นในสไตล์อื่นๆ
*กล่าวถึงผลที่ได้รับในรูปของการปฏิบัติซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของการเรียนการสอน พิจารณาความถูกต้องเข้าใจ และความเหมาะสมของข้อความที่กล่าวถึงผลที่ได้รับของผู้เรียนในรูปของการวิเคราะห์งาน ภาระงาน และเนื้อหาวิชา และ/หรือการพิจารณาการลงความเห็นของลูกความ
|
6.วิเคราะห์คุณสมบัติของสถานการณ์
|
*วิเคราะห์คุณสมบัติของสถานการณ์และตัดสินความสัมพันธ์ของทรัพยากรและข้อจำกัด
*พิจารณาความถูกต้อง ความเข้าใจ และความเหมาะสมชองการวิเคราะห์สถานการณ์ |
7.ลำดับขั้นตอนของผลที่ได้รับของผู้เรียน
|
*เลือกวิธีการสำหรับลำดับชั้นของผลที่ได้รับจากการเรียนรู้ที่เหมาะสมตามสถานการณ์กับขั้นตอนของผลที่ได้รับ และถ้อยคำกล่าวที่มีเหตุผลสำหรับลำดับชั้น พิจารณาความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความเหมาะสมของขั้นตอนของผลที่ได้รับของผู้เรียน
|
8.ชี้เฉพาะกลยุทธ์การเรียนการสอน
|
*เลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมต่อสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของผู้เรียน ทรัพยากร และข้อจำกัด ผลที่ได้รับของผู้เรียนตามความต้องการและสารสนเทศที่ตรงกับเรื่องอื่นๆ และถ้อยคำที่เป็นเหตุเป็นผลสำหรับการเลือก
|
9.ลำดับชั้นของกิจกรรมของผู้เรียน
|
*ระบุขั้นตอนกิจกรรมที่เหมาะสมของผู้เรียน จะทำให้ประสบผลสำเร็จในผลที่ได้รับเฉพาะอย่าง และถ้อยคำที่เป็นเหตุผลสำหรับขั้นตอน
*พิจารณาความเหมาะสมและความสมบูรณ์ของลำดับชั้นกิจกรรมของผู้เรียน |
10.ตัดสินใจเกี่ยวกับทรัพยากรการเรียนการสอน (สื่อ) ที่เหมาะสมต่อกิจกรรมการเรียนการสอน
|
*พิจารณาความเป็นพิเศษของทรัพยากรการเรียนการสอนตามความต้องการของกลยุทธ์การเรียนการสอนที่ขัดแย้งและผลที่ได้รับของผู้เรียน
*ประเมินทรัพยากรการเรียนการสอนที่มีอยู่ซึ่งตัดสินความเหมาะสมสำหรับกลยุทธ์การเรียนการสอนเฉพาะ และผลที่ได้รับของผู้เรียน *ปรับทรัพยากรการเรียนการสอนที่มีอยู่
*เตรียมระบุความพิเศษในการผลิตวัสดุอุปกรณ์ต่างๆตามความต้องการ
|
11.ประเมินการเรียนการสอน/การฝึกอบรม
|
*วางแผนและดำเนินการประเมินผลเพื่อปรับปรุง
*พัฒนาพิสัยของเทคนิคการเก็บรวบรวมสารสนเทศ |
12.สร้างสรรค์รายวิชา ชุดการฝึกอบรม และระบบการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ
|
*ตัดสินใจเกี่ยวกับขององค์ประกอบของรายวิชา/ชุดการฝึกอบรม/ระบบการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ และถ้อยคำที่เป็นเหตุผลสำหรับการเลือก
*พิจารณาความเหมาะสม ความเข้าใจ และความเพียงพอของระบบการจัดการที่มีอยู่
|
13.วางแผนและเฝ้าระวังติดตามโครงการพัฒนาการเรียนการสอน
|
*พัฒนาและติดตามโครงการพัฒนาการเรียนการสอนที่เหมาะสมต่อธรรมชาติของโครงการและสถานการณ์
|
14.สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพทางทัศนะ ทางการพูดและทางการเรียน
| |
15.สาธิตพฤติกรรมที่เหมาะสมระหว่างบุคคล กระบวนการกลุ่ม และพฤติกรรมการให้คำปรึกษา
|
*สาธิตพฤติกรรมระหว่างบุคคลกับปัจเจกบุคคลและกับกลุ่มและถ้อยคำที่มีเหตุผลสำหรับการใช้พฤติกรรมในสถานการณ์ที่กำหนดให้
*สาธิตพฤติกรรมการให้คำปรึกษากับปัจเจกบุคคลและกลุ่มและถ้อยคำที่มีเหตุผลสำหรับการใช้พฤติกรรมในสถานการณ์ที่กำหนดให้ *พิจารณาความเหมาะสมของพฤติกรรมระหว่างบุคคล กระบวนการกลุ่ม และการให้คำปรึกษาในสถานการณ์ที่กำหนด |
16.ส่งเสริมการแพร่กระจายและการรับเอากระบวนพัฒนาการเรียนการสอนมาใช้
|
*เลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับส่งเสริมการแพร่กระจาย และการรับเอากระบวนการพัฒนาการเรียนการสอนในสถานการณ์ที่กำหนดให้ และถ้อยคำที่มีเหตุผลสำหรับกลยุทธ์
|
สรุป
ความรู้เบื้องต้นในการออกแบบการเรียนการสอนประกอบด้วย ความต้องการจำเป็นสำหรับการเรียนการสอน นิยามการออกแบบการเรียนการสอน ประโยชน์ของการการออกแบบการเรียนการสอน แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนโดยทั่วไป บทบาทของผู้ออกแบบการเรียนการสอน งานและผลิตผลของกาออกแบบการเรียนการสอนและสมรรถภาพของผู้ออกแบบการเรียนการสอน
ความต้องการจำเป็นของการออกแบบการเรียนการสอนหรือการแก้ปัญหาคุณภาพการเรียนการสอนในสถานการณ์ที่หลากหลาย เพื่อให้การเรียนการสอนมีคุณภาพ บรรลุจุดประสงค์ตามเจตนารมณ์ของผู้สอนและหลักสูตรการออกแบบการเรียนการสอน หมายถึง กระบวนการแก้ปัญหาการเรียนการสอน โดยการวิเคราะห์สถานการณ์ หรือเงื่อนไขการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ แล้วจึงวางแผนการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การเรียนการสอนบรรลุจุดหมายโดยอาศัยความรู้จากหลายทฤษฎี เช่น ทฤษฎีการเรียนรู้ ทฤษฎีการเรียนการสอน ทฤษฎีการติดต่อสื่อสาร ตลอดจนทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และคอมพิวเตอร์
บรรณานุกรม
หนังสือวิชาการออกแบบและการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิจิตรา ธงพานิช)
พิมพ์ที่: โรงพิมพ์มหาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชหวังสนามจันทร์ นครปฐม website: www.suprint.su.ac.th
ฐาปณีย์ ธรรมเมธา. (2557). จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. นนทบุรี : สหมิตรพริ้นติ้ง แอนด์พับลิชชิ่ง.
โปรดปราน พิตรสาธรและคณะ. (2545). ที่นี่e-learning. กรุงเทพ : TJ Book.
ไพโรจน์ ตีรณธนากุลและคณะ. (2546). การออกแบบและการผลิตบทเรียนคอมพิวเตอร์การสอน. กรุงเทพ : ศูนย์ส่งเสริมคุณภาพ.
วรวิทย์ นิเทศศิลป์. (2551). สื่อและนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้. ปทุมธานี : สกายบุ๊กส์.
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา. (2548). อีเลิร์นนิง: จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ
e-Learning: from theory to practice . สืบค้นเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 จากโครงการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย Thailand Cyber University Project : www.thaicyberu.go.th.
อาณัติ รัตนถิรกุล. (2553). สร้างระบบe- learningmoodle ฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพ : ซีเอ็ดยูเคชั่น .
|
https://sites.google.com/site/bthreiyn123/kar-xxkbaeb-kar-reiyn-kar-sxn
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น